ถอดบทเรียนความสำเร็จ Kakao Bank โมเดลธุรกิจแห่งอนาคตของ “ธนาคารดิจิทัลเต็มรูปแบบ”

โลกการเงินกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ DIGITAL-FIRST BANKING ที่ธนาคารไม่จำ เป็นต้องมีสาขาอีกต่อไป แต่ให้บริการทางการเงินครบวงจรผ่านสมาร์ตโฟนได้ ตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุดคือ KAKAOBANK จากเกาหลีใต้ — ธนาคารดิจิทัลที่เปลี่ยนพฤติกรรมทางการเงินของผู้คนทั้งประเทศ และเป็นต้นแบบของ VIRTUAL BANK ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในเอเชีย

จุดเริ่มต้นของ KakaoBank : ก่อตั้งในปี 2017 โดยเครือ Kakao Corp. เจ้าของแอปแชท KakaoTalk

  • แนวคิดสำคัญคือการสร้าง “ธนาคารที่เกิดมาเพื่อโลกดิจิทัล (Digital-native Bank)” ที่ตอบโจทย์พฤติกรรมของคนยุคใหม่
  • ไม่ได้ขาย “ผลิตภัณฑ์การเงิน” แต่ขาย “ประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ผสานกับการเงิน” โดย KakaoBank ใช้ฐานผู้ใช้จาก KakaoTalk กว่า 40 ล้านคน เป็นสะพานเชื่อมเข้าสู่บริการทางการเงิน

โมเดลธุรกิจ 2 เสาหลัก

(1) Banking Business – #1 Retail Bank ให้บริการเงินฝากและสินเชื่อครบวงจร

  • ลูกค้า 25 ล้านราย ครอบคลุม 86% ของวัยทำงาน
  • เติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี (ฐานลูกค้า) และ 22% ต่อปี (เงินฝาก)

(2) Fee & Platform Business – แพลตฟอร์มบริการการเงินในชีวิตประจำวัน

  • รายได้จากบริการเปรียบเทียบสินเชื่อ/ บัตรเครดิต,/บัญชีหลักทรัพย์/ การโอนเงิน/ Open Banking
  • พันธมิตรมากกว่า 100 ราย ครอบคลุมสถาบันการเงินทุกประเภท

 

จุดเด่นคือการผสมผสาน “รายได้จากดอกเบี้ย” และ “รายได้ค่าธรรมเนียม” อย่างสมดุล

 

“Group Account” – การออมแบบสังคมที่พลิกเกม

Group Account คือบัญชีเงินฝากที่ผู้ใช้หลายคนสามารถใช้ร่วมกันได้ เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือชมรมทุกคนสามารถดูยอดเงินและทำ ธุรกรรมร่วมกันผ่านแอป เสมือนบัญชีที่แชร์ได้ในห้องแชท KakaoTalk

“Group Account” เป็นทั้งเครื่องมือสร้าง engagement และเป็นแหล่งเงินฝากต้นทุนต่ำ (low-cost funding)

  • ผู้ใช้เพิ่มจาก 5.3 → 11.8 ล้านราย
  • ยอดเงินฝากเพิ่มจาก ₩2.5 → ₩9.6 ล้านล้านวอน
  • คิดเป็น 16% ของเงินฝากทั้งหมดของธนาคาร

 

การนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในธุรกิจสินเชื่อ : Kakaobank ได้นำ AI มาใช้ในการพิจารณาคุณภาพผู้ขอกู้ โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากฐานข้อมูลของ National Pension Fund กรมสรรพากร และของบริษัทอื่น ๆ ในเครือของ Kakao และสามารถให้คำตอบภายใน 5 นาที โดยผู้ขอกู้ไม่ต้องยื่นเอกสารใด ๆ Success Rate ในการอนุมัติสินเชื่ออยู่ที่ประมาณ 10% โดย Non-Performing Loans อยู่ที่ประมาณ 2-3% ซึ่งสูงกว่า Traditional Banks เล็กน้อย แต่ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้

 

การขยายธุรกิจสู่ Fee & Platform

  • Loan Comparison Platform: ครองตลาด 15% ภายใน 1 ปี มูลค่าสินเชื่อใหม่กว่า ₩376 ล้านล้าน/ปี
  • Debit Card & PLCC: เตรียมเปิดตัวบัตรเครดิต KakaoBank ในปี 2025 ครอบคลุมพันธมิตรบัตรเครดิต 10 รายใหญ่
  • Open Banking: มีผู้ใช้กว่า 6.5 ล้านราย เป็นศูนย์กลางธุรกรรมระหว่างธนาคาร

 

กลยุทธ์นี้ทำให้ KakaoBank มีรายได้หลากหลาย และลดความเสี่ยงจากภาวะดอกเบี้ย

 

หัวใจของความสำ เร็จ: TECHNOLOGY-DRIVEN BANK

Key Drivers:

  • พัฒนาเทคโนโลยีเอง (In-house Development)
  • ใช้ข้อมูลลูกค้า (Data-driven) เพื่อออกแบบบริการเฉพาะบุคคล
  • กระบวนการพัฒนาแบบ Agile ทำ ให้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ได้เร็วกว่าธนาคารทั่วไป
  • มองเทคโนโลยีเป็น “ทรัพย์สิน” ไม่ใช่ “ต้นทุน”

ถอดบทเรียนสำ หรับประเทศไทย

  • เข้าใจผู้บริโภคยุคดิจิทัล - ธนาคารยุคใหม่ต้องมองจากมุมผู้ใช้ (Customer-centric) มากกว่าผลิตภัณฑ์
  • เทคโนโลยีคือทรัพย์สิน - ต้องลงทุนสร้างระบบภายในเอง เพื่อให้สามารถพัฒนาและปรับตัวได้รวดเร็ว
  • ความเชื่อมั่นและระบบคุ้มครองเงินฝาก - เมื่อ Virtual Bank ไม่มีสาขา “ความเชื่อมั่นในระบบคุ้มครองเงินฝาก” จะเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ผู้บริโภคกล้าฝากเงิน
  • การกำ กับดูแลรูปแบบใหม่ - ผู้กำกับต้องเข้าใจการเชื่อมโยงระหว่าง Fintech e-Wallet, และธนาคาร เพื่อป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบ

การจัดทำข้อมูลรายผู้ฝากเพื่อนำส่งให้ KDIC

  • KDIC กำ หนดให้สถาบันการเงินสมาชิกจัดทำ ข้อมูลรายผู้ฝากในรูปแบบ SCV เพื่อส่งให้ KDIC ประมวลผลผ่านช่องทางที่ปลอดภัย ซึ่งจะแตกต่างจากแนวทางของสถาบันที่ให้สถาบันการเงินสมาชิกประมวลผลเองและส่งยอดจ่ายคืนสุดท้ายมาให้สถาบันพิจารณาความถูกต้องเป็นรายเดือน
  • Kakaobank ยังไม่เคยนำ ส่งข้อมูลรายผู้ฝากให้แก่ KDIC ตั้งแต่เริ่มดำ เนินการ และการส่งข้อมูลดังกล่าวเป็นในรูปแบบ Ad-hoc
  • KDIC ยังไม่เคยเข้าตรวจสอบ Kakaobank ในฐานะหน่วยงานกำ กับดูแล แต่คาดว่าจะมีการตรวจสอบ
    ครั้งแรกแบบ On-site ในปี 2568

โดย: ฝ่ายวางแผยและวิจัย สถาบันคุ้มครองเงินฝาก

ปรับปรุงล่าสุด 9 ต.ค. 2568

สงวนสิทธิ์โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก

บทความอื่นๆ

ดูเพิ่มเติม